กล่าวนำ

ในการผสมเกสรดอกไม้ จำเป็นต้องทราบว่าพืชชนิดนั้นเป็นพืชผสมข้าม หรือผสมตัวเอง เพื่อที่จะได้ป้องกันการผสมของเกสรดอกเพศผู้และดอกเพศเมียในดอกเดียวกัน การผสมเกสรดอกบอนสี ซึ่งเป็นพืชผสมข้าม สิ่งที่สำคัญคือเวลาการบานของดอกเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย ดอกของบอนสีมีทั้งเกสรเพศเมียและเกสรเพศผู้อยู่ในดอกเดียวกัน แต่เกสรเพศเมียจะบานก่อนเพศผู้ประมาณ 23 ชั่วโมง ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องเก็บเกสรเพศผู้ไว้เพื่อทำการผสมกับต้นอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งจะได้ลูกผสมบอนสีที่มีความแปลกใหม่

วัตถุประสงค์

    1. ความแปลกไปจากต้นที่มีอยู่เดิม และแปลกไปจากพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ได้แก่ สีแปลก, ใบแปลก, ก้านแปลก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

บอนสีอยู่ในสกุล Caladium วงศ์ Araceae (Arum family) เป็นพืชที่มีหัวสะสมอาหาร อยู่ใต้ดินคล้ายหัวมันฝรั่ง แตกรากฝอยอยู่รอบ ๆ และพักตัว ทิ้งใบหมดในฤดูหนาว เมื่อถึงฤดูฝนจึงเริ่มผลิใบใหม่ เจริญเติบโตตามปกติอีกครั้ง แต่ในปัจจุบันเราสามารถปลูกเลี้ยงบอนสีให้สวยงามได้ตลอดปี โดยเลี้ยงในตู้หรือกระโจมควบคุมความชื้น ป้องกันลมโกรก ทำให้ชะลอการพักตัวได้ แต่ต้องระวังไม่ให้ได้รับแสงแดดมากไปหรือน้อยไป เพราะจะมีผลกระทบต่อสีของใบที่เป็นลักษณะสำคัญประจำพันธุ์ บอนสีพันธุ์เดียวกันอาจมีสีของใบต่างกันได้เมื่อปลูกในสภาพที่ต่างกัน ใบของบอนสีมีรูปร่างลักษณะหลายแบบ ซึ่งเกิดจากความสามารถของคนไทยที่ผสมพันธุ์ให้มีความแปลกตาไปจากบอนสีดั้งเดิมที่เคยนำเข้ามา และในขณะนี้ยิ่งเพิ่มการพัฒนาการผสมพันธุ์ รวมทั้งการปลูกเลี้ยงกันโดยตลอด ทำให้บอนสีมีรูปร่างใบหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีศัพท์ที่เรียกกันโดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ปลูกเลี้ยงบอนสี

สำหรับบอนสีที่มีลักษณะใบคล้ายรูปหัวใจ เรียกว่า บอนใบไทย (ใบเหมือนต้นบอนที่ใช้รับประทาน)

    1. บอนตับ หมายถึง บอนที่ตั้งชื่อสมมติไว้เป็นพวกเดียวกัน ซึ่งมักนิยมตั้งชื่อเป็นตัวละครในวรรณคดี เช่น ขุนช้างขุนแผน ไกรทอง สามก๊ก รามเกียรติ์ รวมทั้งบุคคลที่กล้าหาญ ในประวัติศาสตร์ของไทยก็ได้รับการตั้งชื่อเป็นบอนสีตับวีรชนบ้านบางระจัน และสถานที่สำคัญในเมืองไทยก็ได้รับการตั้งชื่อ เช่น ตับป้อมรอบพระบรมมหาราชวัง และตับจังหวัด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการตั้งชื่อเป็นบอนตับเพลงไทย ตับนางสงกรานต์ ตับวีรสตรีผู้กล้าหาญ ตับปืนใหญ่โบราณ เป็นต้น
    2. บอนป้าย หมายถึง บอนที่มีบริเวณของสีอื่นอีกสีหนึ่งปรากฏอยู่บนพื้นใบ ซึ่งเป็นสีที่ต่างไปจากสีของพื้นใบ เช่น บอนพื้นสีเขียวมีสีแดงป้ายทับ บางต้นพื้นใบสีแดงมีสีขาวป้ายทับ หรือบางต้นใบพื้นสีเขียวอาจมีสีเหลือง สีขาว สีแดงป้ายทับ
    3. บอนเม็ด หมายถึง บอนที่พื้นใบมีสีพื้นแดงหรือชมพูเขียว แต่มีเม็ดสีขาว สีเหลืองกระจายอยู่ทั่วไป โดยเม็ดอาจมีสีเดียว หรือ 2 – 3 สีรวมอยู่ด้วยกัน
    4. สาแหรก หมายถึง เส้นที่ปรากฏอยู่บริเวณกาบต้น วิ่งจากบริเวณโคนกาบของ ต้นบอนขึ้นไปตามก้านของใบบอน เป็นเพียงเส้นสั้น ๆ เท่านั้น อาจเป็นเส้นเดี่ยว เส้นคู่ หรือเส้นหมู่ ก็ได้
    5. เสี้ยน หมายถึง เส้นที่ปรากฏอยู่บริเวณรอบก้าน เป็นเส้นขนาดเล็กและสั้น
    6. หนุนทราย หมายถึง ใบบอนที่มีเมล็ดสีขนาดเล็กละเอียดจำนวนมาก ดุจทรายสาดอยู่ใต้สีของพื้นใบ ซึ่งมีผลทำให้สีของพื้นใบเปลี่ยนไป
    7. ใบเบี้ย หมายถึง ใบที่เกิดขึ้นขณะที่ต้นบอนสียังมีขนาดเล็ก ส่วนมากเป็นใบที่ยังไม่กัดสีและมีสีเขียว ซึ่งลักษณะสีสันไม่เหมือนใบของต้นบอนสีที่โตเต็มที่แล้ว
    8.  

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

       

      รูปที่ 1 ส่วนต่าง ๆ ของต้นบอนสี

       

       

    9. กัดสี หมายถึง ลักษณะที่พื้นสีเขียวของใบบอนเริ่มเปลี่ยนสีเป็นไปตามลักษณะเฉพาะของบอนสีพันธุ์นั้น อาจเปลี่ยนเป็นจุดสีก่อนแล้วค่อยขยายบริเวณกว้างขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งเหมือนใบบอนต้นโต
    10. พร่า หมายถึง การกระจายของสีอีกสีหนึ่งที่ต่างไปจากสีบนพื้นใบเดิม ซึ่งปลายบริเวณของสีที่กระจายนั้นกลืนหายไปกับสีพื้นของใบบอน หรืออาจหมายถึงสีของกระดูและเส้นที่ไม่คมชัด เนื่องจากบริเวณขอบเส้นมีสีกระจายจางออกไป
    11. สะดือ หมายถึง จุดของเส้นใบมาจรดกันในบริเวณกลางใบ ซึ่งอยู่ตรงกับก้านใบพอดี
    12. หู หมายถึง ส่วนของใบบอน ซึ่งมีด้านหนึ่งแยกออกจากช่วงท้ายของใบ มีลักษณะเว้าเข้าหาสะดือมากบ้างน้อยบ้าง จะยาวหรือสั้นขึ้นอยู่กับพันธุ์ของบอนสี บางต้นอาจไม่มีหูเลย
    13. กาบ หมายถึง ส่วนหนึ่งของโคนก้านที่ติดกับหัวบอน และไม่กลมเหมือนก้านบอน ทั่วไป หรืออาจกล่าวได้ว่ามีลักษณะคล้ายกาบผักกาด เป็นที่พักของใบอ่อน
    14. ก้าน หมายถึง ลักษณะรวม ๆ ของก้านใบ รวมทั้งเสี้ยน สาแหรก สะพานหน้า และสะพานหลัง
    15. ขอบใบ หมายถึง ส่วนริมสุดโดยราบของใบ บางใบจะมีสีเหมือนพื้นใบหรือต่อจากพื้นใบ บางพันธุ์อาจมีขอบใบเรียวหรือหยิกย่นเป็นลอน
    16. หูใต้ใบ หมายถึง ส่วนที่เป็นติ่งเล็ก ๆ ยื่นออกมาใต้ใบบริเวณกระดูก จะพบเห็นได้เฉพาะบอนสีบางพันธุ์
    17. แข้ง คือ ส่วนที่ยื่นมาจากก้านใบ มีลักษณะคล้ายใบเล็ก ๆ บางพันธุ์อาจมี 2 ใบ มองดูเป็นแฉก มักพบในบอนสีประเภทใบกาบ

บอนใบไทย มีรูปร่างคล้ายหัวใจ มักมีขนาดใหญ่ ก้านใบอยู่กึ่งกลางใบ ปลายใบแหลมบ้างมนบ้าง หรือบางพันธุ์ปลายใบเรียวแหลมและหูใบไม่ฉีกถึงสะดือ

บอนใบยาว มีรูปใบเรียวหรือป้อม ปลายใบเรียวแหลม ก้านใบอยู่ตรงรอยหยัก บริเวณโคนใบพอดี และมีลักษณะที่เด่นชัด คือ หูใบที่ฉีกถึงสะดือ สำหรับบอนใบยาวนี้ยังแบ่งออกได้ 3 ลักษณะ คือ

 

 

    1. ใบยาวธรรมดา คือ บอนที่มีใบยาวปลายเรียวแหลม และมีหูใบยื่นยาวคล้ายใบโพธิ์ บางพันธุ์มีสะโพกกว้าง
    2. ใบยาวรูปหอก คือ บอนที่มีใบเรียว ปลายใบเรียวแหลม หูใบสั้น หรือไม่มีหูใบเลย
    3. ใบยาวรูปใบไผ่ คือ บอนที่มีใบแคบ เรียวยาวเป็นเส้น ปลายใบเรียวแหลม ไม่มีหูใบ มองดูคล้ายใบของต้นไผ่

บอนใบกลม มีรูปร่างใบค่อนข้างกลม หรือรี ปลายใบมนสม่ำเสมอ ก้านใบส่วนใหญ่จะอยู่กึ่งกลางใบพอดี

บอนใบกาบ ก้านใบจะแผ่แบนตั้งแต่โคนใบถึงคอใบ ลักษณะคล้ายใบผักกาด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รูปที่ 2 ใบบอนแบบต่าง ๆ รูปที่ 3 ลักษณะดอกบอนสี